วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

5 ที่เที่ยวน่าสนุกเมืองขอนแก่น ม่วนคั่กๆ

เนื่องจากในเดือนนี้มีวันสำคัญทางพระพุทธ ศาสนาคือ วันอาสาฬหบูชา ทางคู่หูเดินทางจึงอยากเชื้อเชิญให้เราชาวพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย เข้าวัด ฟังธรรม รักษาศีล เพื่อเป็นการพักผ่อนจิตใจ หลังจากที่เราต้องใช้ชีวิตอย่างเหน็ดเหนื่อยกับโลกในยุคปัจจุบันนี้ ทุกครั้งที่ทางทีมงานได้ออกไปทำคอลัมน์เก็บเกี่ยวเรื่องราวและประสบการณ์ดีๆ มาฝากคุณผู้อ่านก็ไม่เคยพลาดที่จะต้องแวะวัด ทำบุญ กราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของเมืองนั้นๆ เช่นกัน โอกาสนี้เราจึงอยากจะพาคุณผู้อ่านไปกราบนมัสการพระธาตุสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อันเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า ณ  ซึ่งมีพระมหาธาตุแก่นนคร หรือ พระธาตุ 9 ชั้นอันงดงามตั้งอยู่ที่นั่น พร้อมแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเมืองขอนแก่น


1.วัดหนองแวง (พระอารามหลวง) ซึ่งมีพระมหาธาตุแก่นนคร หรือ พระธาตุเก้าชั้น เรือนยอดทรงเจดีย์ (จำลองแบบจากพระธาตุขามแก่น) จัดสร้างขึ้นเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราช สมบัติครบ 50 ปี และมหามังคลานุสรณ์ 200 ปี เมืองขอนแก่น ความสูงขององค์พระธาตุฯ 80 เมตร มีพระจุลธาตุ 4 องค์ ตั้งอยู่ 4 มุมและมีกำแพงแก้วพญานาค 7 เศียรล้อมรอบ เป็นศิลปะสมัยทวาราวดี ผสมผสานศิลปะอินโดจีน ในระหว่างการเดินขึ้นเราจะได้ยินเสียงอันไพเราะก้องกังวานของกระดิ่งที่แขวน ไว้โดยรอบพระธาตุทั้ง 9 ชั้น ทำให้มีความสุขใจในขณะเดินขึ้นไปในแต่ละชั้น พร้อมยังสามารถเดินชมศิลปะและความงดงามของบานประตู ภาพวาด และหน้าต่างแกะสลัก บอกเล่าเรื่องราวเป็นภาพชาดก ภาพพุทธประวัติ ในชั้นบนสุดของพระธาตุเป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุกลางบุษบก อีกทั้งยังเป็นจุดชมวิวทัศนียภาพความสวยงามของเมืองขอนแก่นได้รอบทั้ง 4 ทิศ โดยเฉพาะทางด้านทิศตะวันออกสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของบึงแก่นนครที่มีพื้นที่ กว้างใหญ่ถึง 600 ไร่
ภายในองค์พระธาตุแต่ละชั้น
-   ชั้นที่ 1 เป็นหอประชุม มีพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ส่วนอุรังคธาตุ (ส่วนอก) และพระธาตุของพระสาวกประมาณ 100 องค์ ประดิษฐานอยู่ บานประตู หน้าต่าง แกะสลักภาพนิทานเรื่องจำปาสี่ต้น แบบ 3 มิติ และมีจิตรกรรมฝาผนังประวัติศาสตร์เมืองขอนแก่น
-   ชั้นที่ 2 เป็นพิพิธภัณฑ์ของชาวอีสาน โดยเก็บรวบรวมข้าวของเครื่องใช้ในอดีตที่ค่อนข้างหาดูได้ยากในปัจจุบัน พร้อมทั้งทีการวาดลวดลายบนผนังที่เกี่ยวกับข้อห้ามของคนอีสาน ที่เรียกว่า "คะลำ" ซึ่งเป็นแนวประพฤติตนในการอยู่ร่วมกันของชาวอีสาน โดยแต่ละภาพก็หมายถึงข้อห้ามแต่ละข้อ ซึ่งมีทั้งหมด 35 ข้อ บานประตู หน้าต่าง เขียนลวดลายเบญจรงค์ และภาพแกะสลักนิทานเรื่องสังศิลป์ชัย
-   ชั้นที่ 3 เป็นหอปริยัติบานประตู หน้าต่าง เขียนลวดลายเบญจรงค์และภาพแกะสลักนิทานเรื่องนางผมหอม เป็นนิทานที่ได้เล่าสืบต่อกันมาแต่โบราณของชาวอีสาน และในชั้นที่สามนี้ได้รวบรวมตาลปัตร พัดยศ และเครื่องอัฐบริขารของพระภิกษุสงฆ์ที่มีชื่อเสียงในจังหวัดขอนแก่น
-   ชั้นที่ 4 เป็นหอปริยัติธรรม ภายในมีพิพิธภัณฑ์ของเก่า ภาพวาดที่บานประตู หน้าต่าง เป็นภาพพระประจำวันเกิด เทพประจำทิศ และตัวพึ่ง-ตัวเสวย
-   ชั้นที่ 5 เป็นหอพิพิธภัณฑ์ มีบริขารของหลวงปู่พระครูปลัดบุษบา สุมโน อดีตเจ้าอาวาสวัดรูปที่ 6 บานประตูหน้าต่างแกะสลักภาพพุทธชาดก
-   ชั้นที่ 6 เป็นหอพระอุปัชฌายาจารย์ บานประตูหน้าต่างแกะสลักนิทานชาดกเรื่องเวสสันดร
-   ชั้นที่ 7 เป็นหอพระอรหันต์สาวก บานประตูหน้าต่างแกะสลักนิทานเรื่องพระเตย์มีใบ้
-   ชั้นที่ 8 เป็นหอพระธรรม เป็นที่รวบรวมพระธรรม คัมภีร์สำคัญทางพระพุทธศาสนา พระไตรปิฏก ฯลฯ บานประตูแกะสลักรูปพรหม 16 ชั้น
-   ชั้นที่ 9 เป็นหอพระพุทธ ตรงกลางมีบุษบก เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า บานประตูแกะสลักภาพ 3 มิติ รูปพรหม 16 ชั้น
เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 8.00 - 18.00 น.

2.พระธาตุขามแก่น สร้างขึ้นประมาณต้นพุทธศตวรรษที่ 25 ตั้งอยู่ในวัดเจติยภูมิ ตำบลบ้านขาม ตามประวัติโดยย่อกล่าวว่า โมริยกษัตริย์ เจ้าเมืองโมรีย์ซึ่งเป็นเมืองอยู่ใน อาณาเขตของประเทศกัมพูชา มีความประสงค์ที่จะนำพระอังคารของพระพุทธเจ้าที่พระองค์ได้ไว้เมื่อครั้งพระ พุทธเจ้าปรินิพพานใหม่ๆ มาบรรจุ ณ พระธาตุพนม จึงโปรดให้พระอรหันต์และพระเถระเจ้าคณะรวม 9 องค์นำขบวนอัญเชิญพระอังคารมาในครั้งนี้ เมื่อผ่านมาถึงดอนมะขามแห่งหนึ่ง ซึ่งมีต้นมะขามใหญ่ที่ตายแล้วเหลือแต่แก่น เนื่องจากเป็นเวลาพลบค่ำแล้วและบริเวณนี้ภูมิประเทศราบเรียบดีจึงหยุดคณะพัก ชั่วคราว รุ่งเช้าจึงเดินทางต่อไปถึงภูกำพร้าปรากฏว่าพระธาตุพนมได้สร้างเสร็จแล้ว จึงเดินทางกลับและตั้งใจว่าจะนำพระอังคารธาตุกลับไปประดิษฐานไว้ที่บ้าน เมืองของตน แต่เมื่อเดินทางผ่านดอนมะขามอีกครั้งปรากฏว่าแก่นมะขามที่ตายแล้วนั้นกลับ ยืนต้นแตกกิ่งก้านผลิใบเขียวชอุ่มเป็นที่น่าอัศจรรย์ คณะอัญเชิญพระอังคารธาตุจึงพร้อมใจกันสร้างเจดีย์ครอบต้นมะขามนี้พร้อมกับนำ พระอังคารธาตุและพระพุทธรูปบรรจุไว้ในองค์พระธาตุและให้นามว่าพระธาตุขาม แก่นมาจนทุกวันนี้ พระธาตุขามแก่นถือว่าเป็นโบราณสถานที่สำคัญของจังหวัดขอนแก่น ทุกปีในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 จะมีงานฉลองและนมัสการพระธาตุเป็นประจำ บริเวณด้านข้างก็จะมีโบสถ์สมัยโบราณซึ่งมีสถาปัตยกรรมของการแกะสลักไม้ตรง บริเวณหน้าจั่วที่สวยงาม พร้อมชมภาพวาดแปลกตาที่มีทหารยืนเฝ้าด้านหน้าประตูโบสถ์




3.ศาลหลักเมืองขอนแก่น เป็นสถานที่อันศักดิสิทธิ์ที่ชาวขอนแก่นให้ความเคารพสักการะอย่างมาก ประดิษฐานอยู่ที่ศาลาสุขใจ ถนนเทพารักษ์ หน้าเทศบาลขอนแก่น ท่านเจ้าคุณปู่พระราชสารธรรมมุนี และหลวงธุรนัยพินิจ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้ริเริ่มสร้างขึ้น โดยนำหลักศิลาจารึกจากโบราณสถานในท้องที่อำเภอชุมแพมาประกอบพิธีทางพุทธ ศาสนา และตั้งเป็นศาลหลักเมืองเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2499  ปัจจุบันได้มีการระดมทุนจากชาวบ้านซ่อมแซมศาลหลักเมืองหลังเก่าให้ดูดีขึ้น เสริมยอดฉัตรทองคำหนัก 8 กิโลกรัม พร้อมการขยายพื้นที่ให้สามารถจัดกิจกรรมสำคัญของเมือง ทำให้ศาลหลักเมืองเป็นทั้งที่เคารพสักการะและเป็นลานกิจกรรมไปในตัว ในยามค่ำคืนจะมีการประดับไฟ หรือบางครั้งเราก็จะได้เห็นการฉายหนังกางแปลงในบริเวณนั้นเพื่อเป็นการแก้บน ต่อท่านเทพารักษ์อีกด้วย



4.วัดพระพุทธบาทภูพานคำ ตั้งอยู่บริเวณไหล่เขาภูพานคำ อำเภออุบลรัตน์ ก่อนถึงทางเข้าเขื่อนอุบลรัตน์เล็กน้อย เป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองในมณฑป และโดดเด่นด้วยพระพุทธรูปสีขาวขนาดใหญ่ หรือ หลวงพ่อใหญ่ ที่ประดิษฐานอยู่บริเวณเชิงเขาอย่างสง่างาม มีความสูงถึง 14 เมตร มีบันไดทางขึ้นจากลานวัดไปยังยอดเขาจำนวน 1,049 ขั้น หรือจะขับรถยนต์ขึ้นไปถึงยอดเขาก็ได้  สามารถมองเห็นทัศนียภาพทะเลสาบเขื่อนอุบลรัตน์ได้สวยงาม




5.เขื่อนอุบลรัตน์ เป็นเขื่อนอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน สร้างกั้นลำน้ำพอง ตรงช่องเขาแนวต่อของเทือกเขาภูพานและภูพานคำ บริเวณเขื่อนมีทิวทัศน์สวยงาม ลมพัดเย็นสบาย มีสวนหย่อมให้นั่งเล่นพักผ่อนหย่อยใจ ภายในบริเวณมีร้านอาหารและบ้านพักให้บริการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ที่ทำการเขื่อนอุบลรัตน์ โทร.0-4344-6231 หรือ กรุงเทพฯ โทร. 0-2436-3271-2
การเดินทางไปชมเขื่อน ไปได้ตามทาง หลวงหมายเลข 2 (ขอนแก่น-อุดรธานี) ห่างจากขอนแก่น 26 กิโลเมตร ถึงหลักกิโลเมตรที่ 470-471 จะมีทางแยกซ้ายมือเข้าสู่เขื่อนอุบลรัตน์อีก 24 กิโลเมตร รวมระยะทางห่างจากตัวเมือง 50 กิโลเมตร

ขอขอบคุณที่มาจาก : http://travel.sanook.com/939568/


วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

5 ที่เที่ยวเลย ที่ต้องเทใจให้

 เลย เมืองท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่โอบล้อมด้วยภูเขาสลับซับซ้อนท่ามกลางสายหมอกปกคลุมเหนือยอดภู อุดมไปด้วยพืชพรรณป่าไม้นานาชนิด สถานที่รู้จักกันดีคือ ภูกระดึง ภูเรือ เชียงคาน  และด้วยอากาศอันเย็นสบายภูมิประเทศที่งดงาม ประเพณีวัฒนธรรมอันแตกต่างไปจากถิ่นอื่นซึ่งได้แก่ การละเล่นผีตาโขน แต่เลยไม่ได้มีเรื่องราวและความงดงามแค่เพียงเท่านี้ ยังมีสถานที่อีกหลายแห่ง ที่รอคอยนักเดินทาง มาสัมผัสเมืองแห่งขุนเขาดินแดนมหัศจรรย์แห่งนี้ กับ 10 ที่เที่ยวเลย ที่ต้องเทใจให้


1.ภูลมโล
ภูลมโล ตั้งอยู่ในตำบลกกสะทอน อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ในเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ภูลมโลเป็นภูเขาที่ตั้งอยู่บนรอยต่อ ของสามจังหวัด คือ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และเลย สิ่งที่ทำให้ภูลมโลเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวในเวลานี้ คือ เป็นจุดชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่มีพื้นที่กว้างขวางนับ 1000 เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีธรรมชาติ ที่สวยงามของขุนเขา และอากาศที่หนาวเย็น
ช่วงเวลาท่องเที่ยวที่เหมาะสม กลางเดือนมกราคม- ปลายเดือนมกราคม
ข้อมูลท่องเที่ยวภูลมโล คลิ๊ก ภูลมโล 
รีวิวท่องเที่ยว ภูลมโล คลิ๊ก นางพญาเสือโคร่งภูลมโล 2559 


2.ภูป่าเปราะ
ภูป่าเปาะ ตั้งอยู่ที่บ้านผาหวาย ตำบลปวนพุ อำเภอหนองหิน จังหวัดเลย จุดเด่นที่น่าสนใจของนักท่องเที่ยว ก็คือ การได้ขึ้นไปชม บรรยากาศบนจุดชมวิวที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 900 เมตร สามารถมองเห็นภูหอซึ่งมีลักษณะเป็นภูเขาสูง เป็นภูเขายอดตัด หรือภูเขายอดราบโดยเฉพาะช่วงที่มีทะเลหมอกปกคลุมซึ่งสามารถพบเห็นได้หมอกได้ง่ายในฤดูฝน ทำให้มีบรรยากาศคล้ายภูเขาไฟฟูจิในประเทศญี่ปุ่น จนได้สมญานามว่า ฟูจิเมืองเลย
ช่วงเวลาท่องเที่ยวที่เหมาะสม กันยายน-กุมภาพันธ์
ข้อมูลท่องเที่ยวภูป่าเปาะ คลิ๊ก ภูป่าเปาะ


3.อำเภอนาแห้ว
อำเภอนาแห้ว จะเรียกได้ว่าที่ตั้งของเมืองนี้อยู่สุดชายแดนและห้อมล้อมไปด้วยหุบเขาของจังหวัดเลย อำเภอนี้มีความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นวัดวาอารามเก่าแก่ที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ มีความเป็นธรรมชาติแบบดั้งเดิมที่ระหว่างสองข้างทางเราจะพบเห็นความเขียวขจีของภูเขาป่าไม้และท้องทุ่งนา นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติภูสวนทรายซึ่งมีจุดชมทะเลหมอกภูหัวฮ้อม ที่เราสามารถพบเห็นทะเลหมอกได้ในมุมที่สุดอลังการ
ช่วงเวลาท่องเที่ยวที่เหมาะสม กันยายน-มกราคม
ข้อมูลท่องเที่ยวภูป่าเปาะ คลิ๊ก อำเภอนาแห้ว 


4.ภูเรือ
ดินแดนหนาวสุดในแดนสยาม คือ คำกล่าวขานที่มีคนพูดถึง อุทยานแห่งชาติภูเรือ ภูเขาที่ขึ้นชื่อของจังหวัดเลยมาช้านาน ภูเรือประกอบด้วยทิวเขาสูง สลับซับซ้อนเรียงรายเป็นรูปต่างๆ สลับกับ ในยามเช้าบนยอดสูงสุดของภูเรือคือ จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นคลอเคล้าภูเขา เป็นจุดชมวิวที่มีภูมิทัศน์ที่สวยงาม เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวจะหนาวเย็นและลมแรงมาก
ช่วงเวลาท่องเที่ยวที่เหมาะสม พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์
ข้อมูลท่องเที่ยวภูเรือ คลิ๊ก ภูเรือ 


5.เชียงคาน
เชียงคาน เมืองเล็ก ริมแม่น้ำโขงสุดชายแดนไทย เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดเลย ที่คงยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ขนบประเพณี การใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ภาพบ้านเก่าๆที่เรียงรายติดกันอยู่ริมถนนชายโขง ดึงดูดใจ ให้นักท่องเที่ยวหลายต่อหลายรุ่นต่าง หลั่งไหลเดินทางกันมาที่นี่ รวมถึงมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ เช่น แก่งคุดคู้ ทะเลหมอกภูทอก วัดศรีคุณเมือง ด้วยความเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมจนทำให้เชียงคาน ในเวลานี้จะมีอะไรหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ถึงอย่างไรความ สงบเรียบง่ายของวิถีชีวิต รอยยิ้มที่แสนจะจริง ของผู้คนในเมืองนี้ ยังคงเป็นเสน่ห์ที่ทำให้เมืองเชียงคานแตกต่างจากเมืองท่องเที่ยวอื่น
ช่วงเวลาท่องเที่ยวที่เหมาะสม เที่ยวได้ทุกฤดู แต่จะคึกคักที่สุดในช่วงฤดูหนาว
ข้อมูลท่องเที่ยวเชียงคาน คลิ๊ก เชียงคาน

ขอขอบคุณที่มาจาก : http://www.paiduaykan.com/travel


4 เตี๋ยวเรือที่ต้องลองในเมืองกรุงเก่า

"ไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือกัน" เป็นประโยคยอดฮิตที่ใครๆ ต้องเอ่ยเมื่อมาเยือนกรุงเก่าอย่าง จ. พระนครศรีอยุธยา ซึ่งมองไปทางไหนก็เห็นแต่เรือ...เรือ...เรือ...จอดเทียบท่าอยู่บนบก พร้อมเสิร์ฟก๋วยเตี๋ยวเรือที่มีทั้งสูตรโบราณ สูตรต้นตำรับ สูตรประยุกต์ และสูตรเฉพาะตัวแบบคนกรุงเก่า ให้คุณได้เลือกลิ้มชิมรสกันอย่างจุใจ


1. ก๋วยเตี๋ยวผักหวานสูตรประยุกต์เจ้าแรกเจ้าเดียว ในอยุธยา (หน้าวัดสุวรรณดารารามราชวรวิหาร เปิด 08.00-18.00 น. โทร. 0-3524-2085, 08-9539-9427)

ถือเป็นร้านดังประจำกรุงเก่าที่มีลูกค้าแน่นเอี้ยดทุกวัน ด้วยบรรยากาศร้านร่มรื่น มีที่ให้เลือกนั่งเยอะ ทั้งในห้องแอร์และใต้ร่มเงาไม้ แถมมีที่จอดรถเพียบ แต่ที่เด็ดสุดเห็นจะเป็นสูตรเด็ดเคล็ดไม่ลับของร้านที่ประยุกต์นำยอดผักหวานใส่แทนผักบุ้งหรือถั่วงอก  มีหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นก๋วยเตี๋ยวไก่ฉีกทั้งต้มจืดและต้มยำ ก๋วยเตี๋ยวเนื้อรสกลมกล่อม ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้งสดน้ำข้นรสจัดจ้าน ใส่ตะไคร้ หอมแดง พริกสด มาด้วยในชาม รวมถึงเกาเหลาขาไก่ต้มยำ ทุกเมนูมียอดผักหวานสดอวบเคี้ยวกรุบกรอบเป็นส่วนประกอบทั้งสิ้นนอกจากนี้ยังมีเมนูเด็ดมัดใจลูกค้าอีกเพียบ ทั้งเห็ดทอด ทอดมัน ส้มตำผักหวาน และผัดไทยผักหวานกุ้งสด อร่อยห้ามพลาดทุกเมนูจ้า...ขอบอก  แล้วอย่าลืมเผื่อท้องไว้กินของหวานแสนอร่อยอย่างลูกชุบขนมต้ม ขนมชั้น สละลอยแก้ว ลูกตาลลอยแก้วด้วย จะได้อร่อยครบสูตร






2. ก๋วยเตี๋ยวเรือลุงเล็กน้ำตกไม่ใส่เลือดสูตรเฉพาะคนกรุงเก่า (ตรงข้ามวัดราชบูรณะ เปิดจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-16.00 น. เสาร์-อาทิตย์ 08.30-16.30 น. หยุดวันพุธ-พฤหัสฯ ที่ 3 ของเดือน โทร. 08-4086-3442, 08-9523-3384)

ถึงบรรยากาศร้านจะดูบ้านๆ แต่รสชาติไม่บ้านนะจ๊ะ  ลุงเล็กทำขายมา 30 กว่าปีด้วยสูตรก๋วยเตี๋ยวน้ำตกไม่ใส่เลือด ใช้เพียงน้ำหมักเนื้อและน้ำหมักหมูต้มแยกหม้อ เติมกะทิเล็กน้อยแล้วเคี่ยวให้เข้มข้นค่อยปรุงรส รับประกันอร่อยไม่เหมือนใคร แถมไม่มีกลิ่นคาวมากวนให้เสียรสชาติด้วย ใครที่เป็นสาวกก๋วยเตี๋ยวเนื้อไม่ผิดหวังแน่นอน เพราะลุงเล็กใช้เนื้อวัวส่วนลูกมะพร้าว คือส่วนโคนขาหลังถึงสะโพก ก้อนใหญ่เนื้อนุ่ม ไม่ติดมัน ต้มครั้งละเป็นสิบๆ ก้อน จากนั้นนำมาตุ๋นบนเตาถ่านอีกที เวลาปรุงก๋วยเตี๋ยวจึงนำขึ้นหั่นเป็นชิ้นๆ เรียงใส่ชาม  ส่วนก๋วยเตี๋ยวหมูใช้เนื้อสันติดมันนิดๆ ต้มแล้วตุ๋นด้วยเตาถ่าน ได้เนื้อหมูนุ่มมากๆ ก๋วยเตี๋ยวแต่ละชามลุงเล็กใส่เครื่องเคราทั้งเนื้อสด เนื้อตุ๋น ลูกชิ้น และตับ แล้วใส่น้ำมาพอขลุกขลิก ให้อร่อยเข้มข้นถึงเครื่อง เสิร์ฟพร้อมถั่วงอกดิบและใบโหระพาสดๆ ให้กินเคียง






3. ก๋วยเตี๋ยวเรือป้าเล็กสูตรโบราณรสหวานกลมกล่อม (ข้างองค์การโทรศัพท์ ตรงข้ามวัดมหาธาตุ เปิด 08.00-17.00 น. หยุดวันพุธ 2 วันต่อเดือน โทร. 08-9412-8213)

เห็นร้านก๋วยเตี๋ยวเรือชื่อ "เล็ก" เหมือนกันก็อย่าเพิ่งสับสน เพราะป้าเล็กกับลุงเล็กต่างคนต่างสูตรกันจ้า และร้านป้าเล็กเขาก็ตั้งอยู่ข้างองค์การโทรศัพท์ มีโต๊ะเก้าอี้หินตั้งเรียงราย  เลือกที่นั่งได้แล้ว ถ้าจะสั่งก็ให้จัดหนักทีเดียวสามสี่ชามเลย เพราะหากรอสั่งซ้ำต้องต่อคิวใหม่ยาวเป็นหางว่าวเชียวละ น้ำตกร้านนี้ปรุงด้วยเลือด น้ำข้นสีเข้มแบบโบราณ ใส่มาในชามแบบขลุกขลิก รสออกหวานนิดๆ ถูกปากคนอยุธยา และไม่ว่าจะเป็นก๋วยเตี๋ยวน้ำตกหมูหรือน้ำตกเนื้อก็ล้วนอร่อยขึ้นชื่อ  ทั้งยังมีขนมจีนน้ำยาใส่ไข่ให้ลิ้มลองด้วย  แถมข้างๆ ร้านมีกล้วยทอด มันทอด กล้วยปิ้ง ข้าวเหนียวปิ้ง ที่ทอดๆ ปิ้งๆ กันร้อนๆ หน้าตาน่ากิน ให้ตบท้าย




4.ก๋วยเตี๋ยวไก่ฉีกคุณประนอม-สูตรต้นตำรับขาไก่หม้อดิน (ทางหลวงหมายเลข 309 ใกล้วัดพนมยงค์ เปิด 09.00-16.00 น. หยุดวันจันทร์ โทร. 0-3523-1476, 08-6615-1644)

านต้นตำรับขาไก่หม้อดินที่บรรดานักชิมหลายสำนักพากันมาการันตีความอร่อย เมนูห้ามพลาดคือขาไก่หม้อดินซึ่งตุ๋นขาไก่จนเปื่อยแล้วปรุงรสต้มยำ เสิร์ฟในหม้อดินใบกะทัดรัด ไม่ต้องปรุงรสเพิ่มก็อร่อยจัดจ้านขนาดต้องตะแคงหม้อซดน้ำกันเลยทีเดียว   สำหรับคนกินเส้นให้สั่งก๋วยเตี๋ยวต้มยำไก่ฉีก มีทั้งเส้นเล็ก เส้นใหญ่ เส้นหมี่ และบะหมี่ เขาลวกทุกเส้นได้นุ่มมากๆ ทั้งปรุงน้ำซุปได้รสเข้มข้น โรยถั่วลิสงคั่วบดใหม่ส่งกลิ่นหอมฉุยเชิญชวนให้ชิมส่วนคนไม่กินเส้นมีลูกชิ้นไก่ปิ้งที่ทางร้านทำเอง ขนมจีบ ซาลาเปา ติ่มซำ ให้เลือกสั่ง แต่ให้เว้นที่ว่างในกระเพาะสำหรับของหวานสุดเจ๋งด้วย นั่นคือกล้วยแปลงกายสูตรเฉพาะของร้าน ที่นำกล้วยปิ้งมายัดไส้ มีไส้เผือก ไส้มะพร้าว และไส้ถั่วเหลือง อร่อยจนนอนฝันถึงเลยละขอบอกว่า 4 โมงเย็นเขาก็เก็บร้านแล้ว  ถ้าอยากอร่อยในช่วงค่ำ ไปกันได้ที่อีกสาขาหน้าตลาดหัวรอ ขายกันตั้งแต่ 4 โมงเย็นจนถึง 4 ทุ่ม 




ขอขอบคุณที่มาจาก : http://travel.sanook.com/1391938/

แนะนำ 5 ร้านอร่อยอยุธยา ของดีที่ขอท้าให้คุณได้ชิม

 ร้านอร่อยอยุธยา นอกเหนือไปจากร้านกุ้งเผาอยุธยาชื่อดังแล้ว ที่นี่ยังมีของอร่อยซ่อนอยู่อีกเพียบ ทั้งของคาวและของหวาน ใครไปเที่ยวอยุธยาครั้งหน้าต้องห้ามพลาด
          "อยุธยา" เมืองท่องเที่ยวมรดกโลก ที่นอกจากจะมีที่เที่ยวที่น่าสนใจมากมายแล้ว ที่นี่ยังขึ้นชื่อในเรื่องอาหารการกินที่อร่อยไม่เป็นสองรองใคร ไม่ต้องบอกก็รู้กันว่าร้านกุ้งเผาอยุธยาอร่อยเด็ดอย่าบอกใคร แต่นอกจากกุ้งเผาแล้วที่นี่มีของทานอร่อยและราคาโดนใจซ่อนอยู่อีกเพียบ ไล่ไปตั้งแต่ของคาวยันของหวาน วันนี้เราขอแนะนำร้านอร่อยอยุธยา มาฝากกัน บอกเลยว่าใครที่กำลังอยากลดน้ำหนัก ต้องอย่าได้เฉียดเข้าใกล้อยุธยาเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าเราไม่เตือนไม่ได้นะ


1. ร้านก๋วยเตี๋ยวผักหวาน

  ตั้งอยู่ในซอยวัดสุวรรณดารารามฯ ตำบลท่าวาสุกรี ร้านอาหารที่นำเอาผักหวานมาประกอบเป็นอาหารจานเด็ดหลากหลายชนิด ภายในร้านค่อนข้างมีพื้นที่ใหญ่ จึงมั่นใจได้ว่าสามารถรองรับลูกค้าได้ไม่อั้น (เพราะลูกค้าที่นี่เขาเยอะจริง ๆ) มีที่นั่งให้เลือกทั้งให้ห้องแอร์และนอกห้องแอร์

          เมนูอาหารของร้านที่มาแล้วพลาดไม่ได้ เพราะว่าถ้าพลาดแล้วจะเสียใจ ได้แก่ "ผัดไทยวุ้นเส้นผักหวานกุ้งสด" ทางร้านใช้น้ำผัดไทยสูตรเด็ดเคล็ดลับของทางร้าน นำมาผัดจนได้รสชาติที่กลมกล่อม "ยำผักหวาน" ลองใครได้ทานไปคำแรก จะรับรู้ได้ถึงความสดและความกรอบ ประกอบกับเครื่องน้ำยำทะเล ที่ขนมาทั้งกุ้งและปลาหมึกกันแบบไม่ยั้ง

          หรือจะเป็น "เห็ดภูฏานทอดกรอบ" เมนูของทานเล่นที่ต้องสั่งกันทุกโต๊ะ เห็ดนางฟ้าที่คุณภาพสด ไม่แฉะ ชื้น อมน้ำ ทอดกันแบบสด ๆ ไม่มีค้างคืน นอกจากนี้ยังมีเมนูก๋วยเตี๋ยวผักหวาน ตำผักหวาน ยำผักหวานกรอบ และอาหารตามสั่งอื่น ๆ ให้ได้เลือกแบบละลานตา

          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 08.00-21.00 น.
          ที่อยู่ : 48/3 หมู่ 1 ถนนอู่ทอง ตำบลหอรัตนไชย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดอยุธยา
          เบอร์โทรศัพท์ : 089 539 9427, 089 900 2086, 035 242 085
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก ร้านก๋วยเตี๋ยวผักหวาน อยุธยา


2. ร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ฉีก คุณประนอม

    อีกหนึ่งร้านก๋วยเตี๋ยวชื่อดังในอยุธยา เป็นร้านตึกแถวสองคูหา ครัวอยู่ทางหน้าร้าน สังเกตได้ว่ามีคนมุงหน้าร้านอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าบรรยากาศโดยรวมในร้านจะดูง่าย ๆ สบาย ๆ แต่ขอบอกว่าทีเด็ดอยู่ที่รสชาติก๋วยเตี๋ยวที่อร่อยถึงใจ ของเด็ดของโดนของทางร้าน ได้แก่ "ก๋วยเตี๋ยวต้มยำไก่ฉีก"รสชาติน้ำต้มยำอร่อยจนแทบไม่ต้องปรุงเพิ่มเลยทีเดียว พร้อมด้วยไก่ฉีกแบบเต็ม ๆ คำ หรือจะเป็น"เกาเหลาขาไก่หม้อดิน" ที่จัดเต็มกับหม้อดินขนาดใหญ่วางอยู่บนเตา ภายในบรรจุด้วยตีนไก่ เสิร์ฟให้ทานกันแบบร้อน ๆ

          แต่เราขอแนะนำนิดหนึ่งว่าหากใครอยากมาทานร้านนี้แต่ไม่อยากผิดหวัง เพราะของหมด อย่างน้อยควรจะต้องมาก่อนเที่ยงถึงจะดีที่สุด (ถ้าเป็นวันธรรมดาช่วงหลังเที่ยงน่าจะยังพอไหว) แต่พอหลังจากเลยบ่ายสองเป็นต้นไป คุณอาจจะเห็นแต่หม้อเปล่า ๆ วางทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า

          เวลาเปิด-ปิด : 
สาขาหน้าวัดพนมยงค์ ทุกวัน เวลา  09.00-16.00 น., สาขาตลาดหัวรอ ทุกวัน เวลา 17.00-21.30 น.
          ที่อยู่ : มีทั้งหมด 2 สาขา สามารถดูรายละเอียดได้ที่ เฟซบุ๊ก ร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ฉีก คุณประนอม อยุธยา
          เบอร์โทรศัพท์ : สาขาหน้าวัดพนมยงค์ โทร. 035 231 476, สาขาตลาดหัวรอ โทร. 035 251 337
          เว็บไซต์ : 
เฟซบุ๊ก ร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ฉีก คุณประนอม อยุธยา 


3. ร้านอาบีดีน ประนอม แสงอรุณ

  ไม่ว่าใครแวะไปเที่ยวที่อยุธยาเป็นต้องหิ้วโรตีสายไหมกลับมาเป็นของฝากด้วยกันทั้งนั้น และ"ร้านอาบีดีน ประนอม แสงอรุณ" น่าจะเป็นร้านโรตีสายไหมชื่อดังในอยุธยาอันดับต้น ๆ ที่ใครต่อใครต่างหมายปอง พิกัดร้านอยู่ตรงข้ามโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา

          ความโดดเด่นของโรตีสายไหมร้านนี้ น่าจะอยู่ที่แป้งโรตีที่หนานุ่ม แต่ไม่เละ ที่จัดแบ่งขายกันกันหลายขนาดหลายราคา ทั้งชุดเล็ก ชุดกลาง ครึ่งกิโลกรัม หนึ่งกิโลกรัม ชุดรอง ชุดใหญ่ ถึงแม้ว่าลูกค้าจะอุ่นหนาฝาคั่ง ต้องรอคิวกันยาวอยู่เสียหน่อย แต่พอไปถึงที่ร้าน ได้เห็นพนักงานต่างขะมักเขม้นเอาสายไหมใส่ถุงกันมือเป็นระวิง ดูแล้วก็เพลินตา และยืนมองดูฆ่าเวลาไปได้พลาง ๆ เผลอแป๊บเดียวก็ถึงคิวของตัวเองแบบไม่ทันได้รู้ตัว ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมที่นี่ถึงเป็นร้านโรตีสายไหมร้านโปรดของใครหลายคน

          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น.
          ที่อยู่ : ติดกับร้านคลังยา ตรงข้ามโรงพยาบาลอยุธยา 32/1 หมู่ 4 ถนนอู่ทอง ตำบลประตูชัยอำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดอยุธยา
          เบอร์โทรศัพท์ : 089 005 9948
          เว็บไซต์ : 
 เฟซบุ๊ก โรตีสายไหม อาบีดีน-ประนอม แสงอรุณ



4. ซาลาเปาอาม่า

  ร้านซาลาเปาชื่อดัง พิกัดร้านอยู่ตรงริมถนนตลาดหัวรอ เนื่องจากถนนบริเวณหน้าร้านค่อนข้างเล็ก จึงอาจทำให้ไม่สะดวกเท่าที่ควร หากนักท่องเที่ยวคนไหนที่นำรถมาด้วย อาจจะต้องจอดรถเลยร้านไปเสียหน่อย แล้วค่อยเดินย้อนกลับมาซื้อน่าจะดีกว่า

          ที่ร้านมีซาลาเปาหลากหลายไส้ให้เราให้เลือก เช่น หมูสับใส่ไข่ หมูแดง ถั่วดำ ครีม สังขยา ผักเห็ดหอม หมั่นโถฟักทอง ไส้ครีม เป็นต้น ที่ไส้ข้างในบรรจุอยู่ในแป้งที่เหนียวนุ่ม ไม่ฝืดคอ สรรพคุณความอร่อยของร้านซาลาเปาที่นี่ จึงเป็นที่เลื่องลือ จนทำให้นักท่องเที่ยวเป็นจำนวนไม่น้อยตั้งใจเดินทางมาเลือกซื้อซาลาเปาที่ร้านนี้ติดมือกลับไปเป็นของฝากกันคนละถุงสองถุง

          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 05.30-17.00 น. (หยุดทุกวันอังคาร)
          ที่อยู่ : ตรงข้ามวัดขุนแสน ตำบลหัวรอ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดอยุธยา
          เบอร์โทรศัพท์ : 035 232 880
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก ซาลาเปา"อาม่า" – ตรงข้ามวัดขุนแสน


5. กุ่ยฉ่ายเจ๊หมวย


          ร้านกุยช่ายเจ้าอร่อย มีทั้งหมด 2 สาขา ทั้งที่ในกรุงเทพฯ และอยุธยา (ทางไปวัดพนัญเชิง) ปกติเวลาที่เราทานกุยช่ายร้านอื่น ลองสังเกตดี ๆ จะพบว่าแป้งจะหนากว่าตัวไส้ ต้องกัดอยู่หลายคำกว่าที่จะเจอไส้ แต่รับรองว่าไม่ใช่กับที่ร้าน "กุ่ยฉ่ายเจ๊หมวย" แน่นอน เพราะที่นี่เป็นสูตรแป้งบาง กัดเข้าไปทีหนึ่งเจอแต่ไส้ล้วน ๆ แถมแป้งยังละลายในปาก เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบทานแป้ง นึ่งกันสดใหม่ทุกวัน ไม่มีค้างคืน

          มีหลากหลายไส้ให้เลือกสรร ทั้งไส้ผัก (กุยช่าย), ไส้หน่อไม้, ไส้เต้าหู้, ไส้กะหล่ำ เป็นต้น รับรองว่าแต่ละชิ้นทั้งสด ใหม่ สะอาด ได้คุณภาพอย่างแน่นอน มีให้เลือกทั้งแบบนึ่งและทอด แต่ถ้าจะทานให้อร่อย ต้องทานตอนร้อน ๆ พร้อมกับน้ำจิ้มเจ้าเด็ด รับรองว่าอร่อยไม่รู้ลืมใครผ่านไปผ่านมาลองแวะไปอุดหนุนกันดูได้

          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 07.00-16.00 น. (หยุดวันจันทร์)
          ที่อยู่ : 19/53 หมู่ 3 ตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดอยุธยา
          เบอร์โทรศัพท์ : 089 968 9124
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก กุ่ยฉ่ายเจ๊หมวย




ขอขอบคุณที่มาจาก : https://travel.kapook.com/view153222.html




วันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ร้านอาหารกรุงเทพ ราคาไม่แพง หลักสิบก็อิ่มได้ [ 3 ห้าร้านสุดท้าย ]

มาแล้ววววววว กับร้านอาหารราคาหลักร้อยในกรุงเทพ ห้าร้านสุดท้ายนี้จะมีอะไรกันบ้างไปดูกันเลย*-*



11.ก๋วยเตี๋ยวเรือสำราญทอง ซอยจุฬา 50


ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือสำราญทอง เป็นร้านที่โดดเด่นในเรื่องของเมนู เพราะก๋วยเตี๋ยวเรือของที่นี่ไม่เหมือนใครตรงที่มีการเพิ่มไข่ต้มยางมะตูมเข้าไปในก๋วยเรือแสนอร่อย ทำให้ก๋วยเตี๋ยวที่อร่อยอยู่แล้ว ได้อรรถรสมากขึ้น รวมทั้งยังมีก๋วยเตี๋ยวเรือหมูชาบูที่ใช้หมูสไลด์นุ่มๆ มาแทนหมูธรรมดาเหมือนทั่วไป ตบท้ายด้วยของหวานอย่าง เฉาก๊วยสูตรโบราณ หวาน เย็น ชื่นใจ

ที่อยู่ : 270 ซอยจุฬา 50 (สามย่านเก่า) แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
เบอร์โทรศัพท์ ก๋วยเตี๋ยวเรือสำราญทอง จุฬา 50 : 0889716074
วันและเวลาเปิดปิดทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 08.30 - 21.00 น. หยุดทุกวันอาทิตย์






12.ข้าวมันไก่เจ๊อ้วน พหลโยธิน


ร้านข้าวมันไก่เจ๊อ้วน มี 2 ฝั่ง เป็นตึกแถว 3 ห้อง โซนรถเข็นอยู่บริเวณด้านหน้า มีที่นั่งแบบโล่ง ด้านในตึกแถว มีโซนโอเพ่นแอร์ และตึกแถวอีกห้องเป็นห้องปรับอากาศ บริการแบบเป็นกันเอง ตกแต่งร้านแบบเรียบง่าย เน้นความสะอาด และรสชาติของข้าวมันไก่ที่อร่อยติดใจ

ที่อยู่ : 2008/22 ซอยพหลโยธิน 32/1 อาคาร ติดกับโรงพยาบาลเมโย ถนนพหลโยธิน แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
เบอร์โทรศัพท์ ข้าวมันไก่เจ๊อ้วน พหลโยธิน : 0897712145 , 0808588588 , 025793039
วันและเวลาเปิดปิดทำการ : เปิดทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง








13.ก๋วยเตี๋ยววัดดงมูลเหล็ก  ถนนเกษตร-นวมินทร์


ก๋วยเตี๋ยววัดดงมูลเหล็ก เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อที่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อย ด้วยน้ำซุปที่กลมกล่อมหอมหวาน พร้อมเนื้อวัวที่คัดสรรคุณภาพมาเป็นอย่างดี เนื้อนุ่ม ไม่เหนียว ที่ร้านนี้เค้าใส่ใจในทุกรายละเอียดของการปรุงทุกขั้นตอน ทำให้ลูกค้าที่ได้มาลิ้มลองนั้นติดใจในรสชาติกันเป็นจำนวนมาก อย่าลืมแวะมาลิ้มลองกันรับรองจะติดใจ 

ที่อยู่ : อาคาร แยกลาดปลาเค้า ถนนเกษตร-นวมินทร์ แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ
เบอร์โทรศัพท์ ก๋วยเตี๋ยววัดดงมูลเหล็ก : 0817031653
วันและเวลาเปิดปิดทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 07.00-16.00 น.









14.ก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นแม่กิม ลาดปลาเค้า


ร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นแม่กิม ร้านนี้มีก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ่น น่องใหญ่ ข้อไก่ ปีก ขาไก่ เลือด ต้มเปื่อย เนื้อนุ่มรับประทานง่ายสะดวก น้ำซุปเข้มข้น ปรุงรสจัดจ้านแล้ว ยังมีขนมหวาน น้ำกะทิ น้ำเชื่อม เอาไว้ดับความเผ็ด รวมถึงไอศกรีมกะทิสดใส่เครื่องอีกมากมายรอให้คุณไปอิ่มอร่อย 

ที่อยู่ : 9/164-165 ซอยรามอินทรา (ลาดปลาเค้า 78) อาคาร ย่านตลาด กม. 2 ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ
เบอร์โทรศัพท์ ก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นแม่กิม ลาดปลาเค้า : 029715551 , 0816446474
วันและเวลาเปิดปิดทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 16.00 - 05.30 น.
ภาพจาก : ร้าน Maekim Kai Tun Noodle




15.ราดหน้ายอดผัก (สูตร 40 ปี) ศาลเจ้าพ่อเสือ


ราดหน้ายอดผัก (สูตร 40 ปี) เป็นร้านตกแต่งดูดี โต๊ะ เก้าอี้จัดเป็นระเบียบ มีเมนู หมี่กรอบราดหน้ารวมมิตรทะเล, เส้นใหญ่ราดหน้าหมู, ผัดซีอิ๊ว, หมูสะเต๊ะ, ลูกชิ้นปิ้ง เป็นต้น

ที่อยู่ : 514 ถนนตะนาว แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร กรุงเทพฯ
เบอร์โทรศัพท์ ราดหน้ายอดผัก (สูตร 40 ปี) ศาลเจ้าพ่อเสือ : 0851696569 , 026221910 ต่อ กด 0
วันและเวลาเปิดปิดทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 09.00 - 22.00 น.


หมดล้าวววววววววว จบแล้ว เป็นไงกันบ้างค่ะ หวังว่าคงจะไปอุดหนุนกันเยอะๆนะคะ ไปลองชิมกันมาแล้วอย่าลืมมาคอมเม้นต์ให้พวกเราได้รู้กันบ้างนะคะ สำหรับวันนี้ไปเเล้วค่าาา ไว้เจอกันใหม่บล็อคหน้า

ขอขอบคุณที่มาจาก : 
http://www.edtguide.com/